8.00 น. เริ่มออกเดินทางจากลาดพร้าวมุ่งหน้าไปแจ้งวัฒนะ แล้วขับตามทางหลวงหมายเลข 340 เพื่อที่จะไปตัวเมืองสุพรรณบุรี จุดหมายปลายทางอยู่ที่ วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร
ต้องบอกเลยว่า ทางหลวงหมายเลข 340 เป็นถนนที่ดีมากๆ ตลอดเส้นทางแทบไม่มีหลุมไม่มีเนิน วิวสองข้างทางมีทุ่งนามีต้นไม้สวยงาม ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที ก็ถึงที่วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร
ที่จอดรถภายในวัดกว้างขวางมาก ไม่ต้องกังวลว่าจะหาที่จอดรถไม่ได้
จุดแรกที่มาเที่ยวคือ กำแพงชั้นนอกรอบวิหารจะมีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวเกี่ยวกับ "ขุนช้างขุนแผน" เป็นภาพวาดที่มีความปราณีตสูงมาก เดินดูไปเรื่อยๆ ยิ่งรู้สึกประทับใจ
วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร ได้ปรากฏชื่อในวรรณคดีไทยเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอน พลายแก้วบวชเณร
วิหารของวัดนี้จะเป็นทรงสูงแปลกตาเป็นที่ประดิษฐานของ "หลวงพ่อโต"
วัดนี้ได้รับการดูแลบูรณะเป็นอย่างดี สภาพโดยรวมยังดูใหม่
ก่อนเข้าวิหารจะมีกำแพงอีก 1 ชั้น น่าจะเป็นกำแพงแต่เดิมตั้งแต่สมัยเริ่มสร้างวัด
เดินผ่านประตูเข้ามาจะเจอ "วิหารหลวงพ่อดำ" ตั้งอยู่ด้านหลังวิหารหลวงพ่อโต มีความเชื่อกันว่าหลวงพ่อดำมีมาก่อนหลวงพ่อโต
ช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ประชาชนจะเข้ามากราบหลวงพ่อโตเยอะกว่าวันอื่นๆ
คาถาบูชาหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร
เข้ามากราบหลวงพ่อโตข้างในวิหาร ซึ่งองค์พระสูง 23.46 เมตร รอบองค์ 11.20 เมตร หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์นั้น ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองสุพรรณมาแต่โบราณกาล
หลังจากไหว้พระเสร็จเดินออกมาด้านหน้าวิหาร จะมีหลวงพ่อโตองค์จำลอง
ก่อนกลับก็กดชัตเตอร์อีกภาพหนึ่ง ครั้งหนึ่งเราได้มาเที่ยววัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จ.สุพรรณบุรี
วัดพิกุลทอง พระอารามหลวง จ.สิงห์บุรี
วัดพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน
วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
วัดตาลเจ็ดยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์
ค้นหาที่เที่ยวใกล้ตัวด้วยพิกัดปัจจุบัน
gps_fixedค้นหาจากพิกัดปัจจุบัน
ระยะทาง 1.203 กม.
พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร จ.สุพรรณบุรี
ระยะทาง 1.351 กม.
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.สุพรรณบุรี
ระยะทาง 1.628 กม.
หอคอยบรรหาร-แจ่มใส จ.สุพรรณบุรี
ระยะทาง 2.752 กม.
ศูนย์เรียนรู้พันธ์ข้าวเฮียใช้ (นาเฮียใช้) จ.สุพรรณบุรี